ลูกอีสานผลัดถิ่น

ลูกอีสานผลัดถิ่น

สวัสดีค่ะ ยินดีตอนรับทุกท่านที่เข้ามาอ่านเรื่องราวลูกอีสานผลัดถิ่นนะคะ ก่อนที่ทุกท่านจะอ่านเรื่องราวของฉัน ฉันของแนะนำตัวให้ได้รู้จักกันมากขึ้นนะคะ ฉันชื่อนางสาววรรณศาสน์ มณีรัมย์ ชื่อเล่นน้ำหวาน อายุ20ปี เป็นคนจังหวัดสุรินทร์ จบการศึกษามัธยมตอนปลาย สายการเรียน วิทย์-คณิต จากโรงเรียนชุมพลวิทยาสรรค์ ด้วยเกรดเฉลี่ย 3.69 ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยเนชั่น จังหวัดลำปาง ชั้นปีที่1 คณะเทคนิคการแพทย์ โดยนิสัยส่วนตัวที่เห็นได้ชัด คือ เฟรนลี่เข้ากับคนง่ายและอัธยาศัยดี โกรธง่ายหายเร็ว ส่วนมากใช้ชีวิตตัวคนเดียว เวลาว่างของฉันคือการเล่น TikTok เป็นสิ่งที่ชอบมาก คลิปที่เล่นจะเป็นรูปภาพมาประกอบเพลงเพราะเต้นไม่เป็น ซึ่งการที่ฉันได้สร้าง Blog นี้ขึ้นมาก็เพื่ออยากจะเล่าเรื่องราวชีวิตในเมืองใหญ่ที่ผ่านมาของตัวฉันเอง

ลูกอีสานผลัดถิ่น

ภาพที่ 1 หลังจากที่จบมัธยมศึกษาตอนปลาย ฉันได้เข้าไปศึกษาต่อที่มหาลัยแห่งหนึ่งใน กทม. ซึ่งเป็นภาคพิเศษบวกกับเรียน NA ด้วย โดย NA หลายท่านคงทราบว่าเรียนเพียงแค่ 6 เดือน ซึ่งฉันคิดว่าเป็นสิ่งที่ดีจะได้ช่วยแบ่งเบาภาระที่บ้านด้วยการที่ทำงานส่งตัวเองเรียน ด้วย
ภาพที่ 2 วันแรกของการทำงานที่ตื่นเต้นมาก เพราะจะมีเงินเดือนที่ได้จากการทำงานของตัวเอง โดยไม่ต้องขอที่บ้านแล้ว หลังจาก 6 เดือนที่ผ่านมา จากการเรียนภาคทฤษฎี 3 เดือน และ ปฏิบัติอีก 3 เดือนจนจบ NA และได้บรรจุงานเป็นผู้ช่วยแพทย์ใน รพ.เอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรสาคร
ภาพที่3 เริ่มทำงานกัน การทำงานใน รพ. หลายคนอาจจะคิดว่าทำงานในห้องผ่าตัดบ้าง ห้องคลอดบ้าง แต่ไม่ใช่🤣 ช่วงนั้นเป็นช่วงโควิด ฉันต้องไป Swab ช่วยพี่พยาบาล ถ้าจะใส่ชุดพยาบาลไม่สะดวก เพราะต้องใส่ PPE ทับอีกรอบ จึงได้ใส่ชุดนี้ ซึ่งร้อนมากถอดมาเปียกทั้งตัว
ภาพที่4 เริ่มคิดถึงบ้าน เพราะไม่ได้กลับบ้านมาจะเข้า 1 ปี ที่บ้านเห็นหน้าแค่ผ่านหน้าจอโทรศัพท์ ทุกครั้งที่วีดีโอคอลหาที่บ้านไม่เคยร้องไห้ แต่ครั้งนั้นคือสุดจริงๆ คือตั้งใจทำงานไม่เอาโอทีของเปลี่ยนโอทีเป็นชั่วโมง เพื่อที่จะเอาชั่วโมงไปเป็นวันหยุดกลับบ้าน แต่สุดท้ายไม่ได้กลับ เพราะตัวฉันเองทำงาน รพ. ซึ่งงานที่ทำก็เสี่ยงโควิด และเป็นพื้นที่สีแดงด้วย ไม่รู้ว่าตัวเองจะติดโควิดไหม จึงไม่กล้าที่จะกลับบ้าน สรุปที่ตั้งใจเก็บชั่วโมงมาเสียเปล่า
ภาพที่5 วันหยุดของการทำงาน ไปเรียนกัน ฉันต้องตื่นตั้งแต่ตี5 อาบน้ำแต่งตัว เดินออกจากห้องพักไปนั่งรถสองแถว เพื่อไปต่อรถเมย์ ปอ.7 ให้ทันเวลา 6.30 น. เพราะระยะทางจากสมุทรสาครไปกทม. เพื่อไปเรียนประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่ง เวลาเรียน 9.30-16.30น. หลังจากขึ้นรถเมย์ ถึง กทม. ก็ต่อ 2 แถวเข้ามหาลัย ซึ่งไปสายตลอด🤣
ภาพที่6 มีเที่ยวบ้างหลังจากที่ทำงานและเรียนมา ก็ต้องไปผ่อนคลายกับพี่ๆในแผนก เป็นอะไรที่สนุกมากเพราะฉันเป็นน้องเล็กที่สุดใน รพ. และในแผนก ซึ่งเด็กสุดอายุ 18 เข้า 19 พี่ๆทุกคนก็จะเอ็นดู ในความเป็นน้องเล็ก และที่ทำงานบ้างที่อยู่ใครอยู่มัน แต่ที่นี้ไม่ใช่ ที่นี้อยู่แบบครอบครัว พี่ทุกคนค่อยให้คำแนะนำและช่วยเหลือฉันเสมอ เป็นสิ่งที่โชคดีมากสำหรับฉัน
ภาพที่7 เป็นวันฉีดวัคซีนโควิด ซึ่งตอนนั้นคือไม่อยากฉีด แต่หัวหน้าให้ฉีดก็เลยยอมที่จะฉีด เพราะหัวหน้ามาฉีดให้เอง ซึ่งก็เหมือนแม่ของฉันอีกหนึ่งคน ที่ค่อยช่วยเหลือฉันมาตลอด จึงเรียกหัวหน้าแผนกว่าแม่ ทุกคนในแผนกก็จะชอบแกล้งฉัน เพราะชอบแอบออกไปซื้อของข้างนอกกันสองคนบ่อยๆ จนบ้างครั้งคนในแผนกโทรตาม ว่า2แม่ลูกไปไหนกันรีบมาได้แล้ว🤣
ภาพที่8 เป็นวันหยุดที่แม่อยากทำสวย ซึ่งช่วงนั้นมหาลัยแจ้งว่าให้เรียนออนไลน์ก่อน แม่อยากทำผมที่ในตัว กทม. ซึ่งฉันจำชื่อห้างไม่ได้ โดยที่ต่างคนต่างไม่รู้ทางอาศัย แอพนำทางซึ่งแม่ก็ให้ช่วยดูแต่ฉันถ้าได้นั่งรถคือหลับสรุปวนอยู่ในทางด่วนนานมาก กว่าจะถึงร้านเสริมสวย เป็นการเดินทางที่สนุกอีกแบบ
ภาพที่9 หลังจากที่ทำงาน รพ.เอกชน ที่สมุทรสาครได้สักพัก ดิฉันก็ได้ลาออกเนื่องด้วยหลายสาเหตุรวมถึงเพื่อที่จะลดเวลาในการเดินทางไปเรียนด้วย เพราะที่ทำงานใหม่เดินทางสะดวกกว่า ซึ่งได้ตำแหน่งงานเป็นผู้ช่วยเทคนิครังสี รพ.เอกชน ในนนทบุรี ซึ่งจะเข้า 2 ปีที่ไม่ได้กลับบ้าน
ภาพที่10 เป็นครั้งแรกที่ได้ขึ้นเวรดึก ตื่นเต้นมากเพราะไม่เคยใช้เครื่องPortable X-ray แต่ที่จริงแล้วพี่ในแผนกเขาก็สอนแต่ฉันไม่จำ😅 ไม่ใช่ไม่จำแต่จำไม่ได้ แต่วันนั้นคือใช้ไม่เป็นก็ต้องเป็นเพราะขึ้นกับพี่ผู้ช่วยซึ่งพึ่งมาใหม่ ตัดสิ้นใจโทรหาพี่ที่สอนถามพี่อีกรอบว่าใช้แบบไหน ยังไง สรุปคือทำได้ ถ้าไม่ฉุกเฉินหรือเร่งรัดคือยังไงฉันก็ไม่จำ😂
ภาพที่11 เป็นภาพหลังที่ไม่เจอครอบครัวมานาน พี่ชายและพี่สะใภ้มารับหลังเลิกงานไปทานข้าวด้วย ดีใจมากเพราะตลอด2ปีที่ผ่านมาคือใช้ชีวิตทำงาน กิน เที่ยว เรียน ขนของย้ายของตัวคนเดียวมาตลอด ดีใจสุดๆ อย่างน้อยก็ได้เจอแบบที่ไม่ผ่านหน้าจอโทรศัพท์😊
ภาพที่12 เชื่อหลายท่านก็อาจมีบ้าง ฉันก็เป็นแอบดื้อบ้าง ไปทำบุญกับแฟน แต่ถึงจะดื้อก็โทรบอกที่บ้านว่าหยุดนี้ไปเที่ยวไปทำบุญกับแฟนนะ บางอาจจะคิดว่าบอกทำไม แต่สำหรับฉันเมื่อได้บอกคือมันสบายใจอย่างน้อยก็ดีกว่าแอบไปโดยที่ไม่ได้บอก ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขอีกแบบ เป็นความทรงจำที่ดี ถึงในวันนี้เราสองคนเลิกกันแล้ว แต่เขาคนนี้ก็เป็นคนที่ดีมากคนหนึ่ง ที่ฉันเองก็ไม่รู้ว่าจะเจอคนแบบนี้อีกไหม
ภาพที่12 ดราม่ามากไปหน่อย🤣 กลับมาทำงานและเรียนกัน หลังจากเริ่มทำงานที่ใหม่ได้สักพัก เริ่มไม่ไหวเนื่องด้วยทำงานและเรียนไปพร้อมกัน เพราะชีวิตส่วนใหญ่เต็มที่อยู่กับงานทำให้ไม่ค่อยเต็มที่กับเรื่องเรียนมากนัก กับมานั่งคิดว่าจะเอายังไงดี ในเมื่อไม่ไหวฉันต้องเลือกระหว่างจะเรียนหรือทำงาน ทำงานก็มีเงินใช้มาตลอดโดยไม่ได้ขอที่บ้าน แต่ในอีกมุมอายุฉันพึ่ง19เองถ้าเรียนต่ออนาตคของเราก็จะดีไปอีกแบบนะ จึงตัดสินใจลาออกจากที่ทำงานและลาออกจากมหาลัยมาเริ่มต้นใหม่ ซึ่งฉันเองคิดว่าไม่สายหากกล้าที่จะทำให้ดีกว่าเดิม
ภาพที่13 สรุปจะเข้า3ปีที่ไม่ได้กลับบ้าน ตัดสินใจมาเรียนคณะเทคนิคการแพทย์ มหาลัยเนชั่นลำปาง ชีวิตที่ผ่านมาตลอดเวลา3ปีกลับการใช้ชีวิตตัวคนเดียวของลูกอีสานคนหนึ่ง ที่ได้ทำงานหาเงินใช้เองทำให้รู้คุณค่าของเงินแต่ละบาทมากขึ้น รู้ถึงรสชาติของชีวิตในสังคมเมืองใหญ่ที่มีต้องดิ้นร้นกับงานที่ทำ ได้เจอสังคมหลายมุมมองซึ่งแต่ละที่ก็เป็นสังคมที่แตกต่างกันมาก เพราะทุกคนต่างมากจากหลากหลายที่ต่างพ่อต่างแม่ ซึ่งฉันเองก็ไม่รู้ว่าแต่ละวันต้องเจอคนแบบไหนบ้าง ทำให้ฉันได้เรียนรู้ที่จะปรับตัวให้เข้ากับสังคมที่เจอ เชื่อว่าหลายคนเคยลำบากก่อนจะมีทุกอย่างที่ตั้งใจ ไม่มีใครอยากกลับไปลำบากอีกแน่นอนฉันเองก็เช่นกันเคยลำบากมา และจะไม่ยอมกลับไปลำบากอีก การได้ตัดสิ้นใจครั้งนี้ฉันจะทำมันออกมาให้ดีที่สุดจะเต็มที่ที่สุดเพราะเป็นอนาตคของตัวฉันเอง ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านเรื่องราวของฉัน แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ครอบครัวและพี่ๆที่ทำงานรวมถึงเพื่อนๆค่อยให้คำปรึกษามาโดยตลอด สุดท้ายถึงที่สุดทุกท่านจะรู้ว่าคนเหล่านี้คือคนที่รักเราที่สุด เพราะคนเหล่านี้ไม่มีวันทิ้งเราเมื่อเราลำบาก เราควรรักตัวเองและคนเหล่านี้ให้มากๆ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านเรื่องราวของฉัน😊

#ชีวิตต้องเจออะไรอีกเยอะ ท้อได้แต่ห้ามถอย ครอบครัวรอดูความสำเร็จของเราอยู่

Get new content delivered directly to your inbox.

Design a site like this with WordPress.com
เริ่มได้